ระบบไฟฟ้าแบบ Three-phase เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการจ่ายไฟฟ้าในระยะไกล ทำให้เครื่องจักรในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สามรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบนี้ประกอบไปด้วยคลื่นความถี่ของ single phase จำนวน 3 ชุดซึ่งทำการออฟเซททำมุม 120 องศา หรือ 1ส่วน3 ของความยาวคลื่น sine ซึ่งแสดงไว้ในภาพ 1
ไฟฟ้าแบบ three-phase สามารถถูกวัดค่าได้จากแต่ละ phase จนถึง neutral หรือจาก phase หนึ่งไปยัง phase หนึ่ง ความสัมพันธ์ของแรงดันไฟฟ้าระหว่าง phase-to-neutral และ phase-to-phase คือปัจจัยหนึ่งของสแควร์รูทของสาม (เช่น 120V vs 208V)
ในทางตรงกันข้าม ไฟฟ้าแบบ single-phase ถูกแจกจ่ายผ่านระบบแจกจ่ายไฟฟ้าตามบ้านทั่วไปเพื่อให้ไฟฟ้าแก่อุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันเช่น คอมพิวเตอร์, หลอดไฟและโทรทัศน์ เมื่อเราดูที่ภาพของกระแสไฟฟ้าในเครื่องแสดงคลื่นไฟฟ้าที่แสดงให้ดูในภาพ 2 จะปรากฏภาพของคลื่นเพียงเส้นเดียว ระบบไฟฟ้าแบบ single-phase จะได้รับจากการใช้งาน phase เพียงชุดเดียวจากระบบ three-phase ค่า Root mean square (RMS) voltage เท่ากับ 120V (สำหรับอเมริกาเหนือ) และผันผวนระหว่างจุดสูงสุดที่ ±170V ที่ 60 Hz (หรือ 60 ครั้งต่อวินาที)
ระบบไฟฟ้าแบบ single-phase หรือ three-phase
ข้อได้เปรียบของระบบ single-phase | ข้อได้เปรียบของระบบ three-phase |
---|---|
มาตรฐานสำหรับพื้นที่ที่ไม่รองรับระบบ three-phase | สามารถช่วยปรับสมดุลให้โหลดในระบบไฟฟ้าของอาคาร |
โดยทั่วไปสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ง่ายกว่าในการใช้งานไฟฟ้าที่มี kVA ต่ำและความหนาแน่นต่ำ | โดยทั่วไปสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ง่ายกว่าในการใช้งานไฟฟ้าที่มี kVA สูงและมีความหมายแน่นในการใช้งานสูง |
ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีค่า amperage น้อยสามารถใช้งานกับระบบได้ (เบรกเกอร์, การวางสาย, แผงควบคุม ฯลฯ) |
อ้างอิง[1]:http://powerquality.eaton.com/Thailand/thoughtleadership/Power-Protection/TH-Three-phase.asp?cx=45